- ความคิดเห็นที่ 1
ขอบคุณครับ
เข้าใจ และเห็นด้วย
จากคุณ : chasam - [ 6 ก.ย. 50 21:52:47 ]
แสดงธรรมโดยหลวงพ่อเทียน จิตตะสุโภ แห่งวัดสนามใน
ความคิดเป็นธรรมชาติทางนามธรรมชนิดหนึ่ง ซึ่งมีอิทธิพลที่สำคัญต่อวิถีชีวิตและ จิตวิญญาณของเรา เราคุ้นเคยและอยู่กับความคิดเกือบตลอดเวลา แต่เราแทบจะไม่รู้จักความคิดที่มีอยู่ในตัวของเราเลย ความคิดชนิดหนึ่งเกิดขึ้นมาโดยที่เราไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งความคิดชนิดนี้ก่อให้เกิดโทสะ โมหะ โลภะได้ และความคิดอีกอย่างหนึ่งเป็นความคิดที่เราตั้งใจคิดขึ้นมา จึงไม่ก่อให้เกิดโทสะ โมหะ โลภะ เพราะความคิดชนิดนี้เราตั้งใจคิดขึ้นมาด้วยสติปัญญา เราคิดแบบรู้ตัวว่าเราคิดอะไร คิดดีหรือไม่ดี ความทุกข์เกิดขึ้นเพราะเราไม่เห็นความคิดไม่รู้ตัวว่าเราคิดอะไร แต่ตัวความคิดจริง ๆ นั้นไม่ได้มีความทุกข์ สาเหตุที่มีความทุกข์เกิดขึ้นคือ เมื่อเราคิดขึ้นมา เราไม่ทันรู้ ไม่ทันเห็น ไม่ทันเข้าใจในความคิด ไม่รู้จักวิธีแก้ไข เราจึงอยู่ด้วยทุกข์ และสุดท้ายก็นำเอาทุกข์นั้นเป็นอารมณ์ของเราไป
แต่ถ้ามาเจริญสติให้รู้เท่าทันความคิด คิดอะไรก็รู้ทันความคิดว่าดีไม่ดีอย่างไร ความคิดก็จะไม่ทำให้จิตใจของเราเปลี่ยนแปลงไปในทางไม่ดี วิธีการเจริญสติก็คือ การทำความรู้สึกตัวอยู่เสมอ สติหมายถึง ความระลึกได้หรือพูดอีกอย่างหนึ่งคือ “ให้รู้สึกตัว” ให้รู้สึกตัวในการเคลื่อนไหว จะยืน เดิน นั่ง นอน ทำงาน ดื่ม กิน ก็รู้ตัวอยู่กับการเคลื่อนไหวนั้น ๆ มีความคิดเกิดขึ้นก็รู้ว่าคิด คิดดีคิดชั่วสติก็รู้ตลอดเวลา การเคลื่อนไหวจึงเป็นสาระสำคัญของการเจริญสติ โดยปกติของคนเราที่ไม่ได้ฝึกสติ พอมีความคิดเกิดขึ้นเราก็ไหลไปตามกับความคิด จิตใจจึงเข้าไปอยู่ในความคิดนั้นเพราะไม่มีสติดึงไว้ ฉะนั้นคิดถูกคิดผิด คิดดีคิดชั่วก็ไม่รู้ตัว
ดังนั้นจึงมีการฝึกหัดการเคลื่อนไหวของรูปกายอย่างรู้ตัวเสมอ ถ้าเรามีสติรู้อยู่กับการ เคลื่อนไหวของรูปกาย เมื่อใจคิดขึ้นมาเราจะเห็น เราจะรู้ เพื่อให้เกิดญาณปัญญารู้แจ้งเห็นจริง หลวงพ่อเทียน จิตตะสุโภ ได้แนะนำให้เราเคลื่อนไหวอย่างมีสติตลอดเวลา และ “รู้” การเคลื่อนไหวนั้น โดยมีเทคนิคในการเจริญสติอย่างต่อเนื่อง คือมีสติรู้กาย วาจา ใจของเรา ว่าขณะนี้เราทำอะไร พูดอะไร คิดอะไร เป็นคุณหรือเป็นโทษอย่างนี้แล้ว ความชั่วความไม่ดีจะแทรกเข้ามาในใจเราไม่ได้ เพราะเรารู้ทันหมดทุกอาการของเรา ฉะนั้นขอให้ทุกคนสร้างสติของตนให้เข้มแข็ง ตลอดเวลา ชีวิตก็จะเป็นสุข สังคมก็จะเป็นสุขตลอดไป
จากคุณ : พุทธะจิต - [ 6 ก.ย. 50 22:16:40 ]
ธุๆๆ
จากคุณ : นายไวรัส - [ 6 ก.ย. 50 22:40:43 ]
... การมีสติตลอดเวลา
1. ถ้าไม่อยู่เหนือคนอื่น... อย่างมีสติ
2. ก็ต้องสันโดษจากคนอื่น... อย่างมีสติ
หรือไม่ก็วนกันไป อย่างนั้น
จากคุณ : .... (@Ble) - [ 6 ก.ย. 50 22:55:56 ]
ขอบคุณท่าน koknam (อ่านว่า ก็อกน้ำ หรือเปล่า) ที่อุตส่าห์ตอบคำถามที่ข้าพเจ้าเคยโพสต์ไว้
ไม่นึกว่าท่านจะผ่านมาอ่านเจอ ยังไงก็ขอขอบคุณท่านมาก
" ข้าพเจ้ายังไม่เคยรู้จักศาสตร์ความรู้จากมนุษย์ผู้ใด จะทรงพลังและอ่อนโยนลึกซึ้งมากเท่านี้"
^
^
ขนาดนั้นเลยรึ ช่างน่าค้นหาโดยแท้
"เมื่อท่าน รู้ความคิด ท่านจะเป็นเซียนเทพ"
^
^
แต่ข้าพเจ้าเป็น มาร คงสามารถฝึกวิชา ดูความคิด นี้ได้เช่นกันนะ คงไม่ผิดกฎพรรคมารแต่อย่างใด
have a nice day ! เช่นกัน
มจร.
จากคุณ : มารจูเนียร์ - [ 6 ก.ย. 50 23:24:44 ]
สาธุกับคุณก็อกน้ำค่ะ
^_^
_/|\_
หมอนหญ้าว่า คืนวันวันที่อยู่ในกล่องสี่เหลี่ยม อาจจะเป็นคืนวันที่สำคัญมากทีเดียว
เพราะนั่นอาจเป็นคืนวันที่ตัดสินว่าเราจะเป็นลูกผีหรือลูกคนอีกด้วย ^_^!
คุณว่าถูกไหมคะ
จากคุณ : หมอนหญ้า - [ 7 ก.ย. 50 09:20:50 ]
ขอบคุณคุณ Koknam ค่ะ
จากคุณ : faisara - [ 7 ก.ย. 50 10:05:38 ]
ขอบคุณครับท่าน Koknam
ความเห็นนี้ของท่าน
สร้างความอุ่นใจ ให้กับการเดินทางเดียวดายได้อย่างดี
ในท่ามกลางการโรมรันพันตู
ผมยังคงเป็นผู้ดูในท่ามกลางฝุ่นที่ตลบอบอวน
เวลาส่วนมากคือปิดตา เมื่อเปิดตาดู ก็ลืมตาอยู่ได้ไม่นาน
การไม่ก้าวขาออกเดิน
ผมคงไม่สามารถเรียกร้องความช่วยเหลือจากท่าน หรือจากใคร
แต่ความเห็นนี้ของท่าน ทำความอุ่นใจให้ผมจริงๆ
จากคุณ : JohnMar - [ 7 ก.ย. 50 10:51:43 ]
(ลบข้อความแล้วยังไม่ได้โพสต์ต่อ ต้องขออภัย)
จิตลักษณะนี้ในทางกรรมฐานเรียกได้ว่าเป็นการแยกจิตออกจากเจตสิกครับ โดยจิตเป็นผู้ดูการคิดของเจตสิกอยู่ตลอดเวลา
แก้ไขเมื่อ 08 ก.ย. 50 21:31:06
แก้ไขเมื่อ 08 ก.ย. 50 10:01:16
จากคุณ : เบิกตะวัน - [ 7 ก.ย. 50 20:50:45 ]