โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน อย่าเชื่อโดยขาดการพิจารณาด้วยปัญญา เนื้อหาบางส่วนเป็นเรื่องส่วนตัวของเจ้าบทความ ขอสงวนสิทธิในการเผยแผ่ต่อ โปรดเคารพต่อสิทธิของเจ้าของบทความ

สอน ?

สอน ?

ผมไม่มีเวลาจะมานั่งเขียนบล็อกเท่าไหร่เพราะหมดไปกับการฝึก บทความนี้ขอแบ่งเป็นสามส่วนรวมกันครับ



....



โง่แล้วง่าย

โง่แล้วง่าย

ระยะที่ผ่านมาผมมีโอกาสได้สังเกตผลลัพธ์จากคนที่ผมได้แนะนำ ผมได้เขียนไว้ในบทความอันที่แล้วว่า มีเด็กอายุสิบเก้าที่เคยถูกไล่ออกจากโรงเรียน ใช้เวลาห้าชั่วโมงจึงเข้าใจเรื่องของสติและทันความคิดขึ้นมาใช่ไหมครับ คราวนี้ผมจะเล่าเรื่องของเด็กอายุสิบหกคนหนึ่งให้ฟัง หมอนี่โดนรีไทน์ออกจากปีหนึ่งโรงเรียนพาณิชย์อะไรซักอย่าง เท่าที่ผมคุยกับเค้าชีวิตชินชากับการชกต่อยสูบบุหรี่เดินกร่าง ไม่รู้ชีวิตจะไปทางไหน เพราะติดเพื่อนไม่ชอบเรียน


ยาก

ยาก

ถ้าการเจริญสติยกไม้ยกมือเดินจงกรมเป็นเดือนๆปีๆ ไม่ใช่เรื่องน่าตื่นเต้นทั้งยัง ฝืนใจ ท้อ น่าเบื่อ เสียเวลาทำมาหากิน สงสัยไหมครับทำไมมีคนฝ่าไปได้ หลายคนในพวกคุณอาจชื่นชมในความเอาจริงเอาจังของผม แต่บอกได้เลยว่า ผมไม่ใช่คนเก่ง ผมเคยเป็นคนเหลาะแหละ เกียจคร้าน ขี้ขลาด เอาแต่ใจ และดีแต่พูด มันไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่หรอกครับกับการมองและชื่นชมคนอื่น ลองมาเป็นคนแบบนั้นด้วยตัวคุณเองไม่ดีกว่าหรือครับ


บ้า

บ้า
ช่วงที่ผ่านมาเป็นช่วงที่ผมรู้สึกว่า มีประสบการณ์หลายอย่างเกิดขึ้นในเวลาใกล้กัน

ผมจะค่อยๆเล่าตามลำดับเหตุการณ์เท่าที่จะนึกออกนะครับ หลังจากสงกรานต์กลับไปพักที่วัด ก็มีอาการคันตามแขน มีผื่นมีตุ่มขึ้น ตอนแรกคิดว่าแพ้หนอนบุ้ง ทิ้งไว้สี่วันจึงไปคลีนิคแถวๆวัด หมอบอกเป็นโรคหิดให้ออกจากวัดด่วน ก่อนที่จะไปติดคนอื่น สันนิษฐานว่าคนที่เข้าพักช่วงเทศกาลสงกรานต์ใช้ห้องนี้ แล้วเอาของส่วนตัวที่ผมทิ้งไว้ในห้องไปใช้ เป็นอีกครั้งที่ผมรู้สึกสนุกกับการทำลายข้าวของวัด ด้วยการเผาผ้าห่ม หมอน เบาะรองนั่ง เสื้อผ้า แล้วลวกพื้นผนังห้องด้วยน้ำเดือด ผมหวังไว้นิดๆแต่ไม่ได้ทำคือ เผากุฏิฆ่าเชื้อหิด