โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน อย่าเชื่อโดยขาดการพิจารณาด้วยปัญญา เนื้อหาบางส่วนเป็นเรื่องส่วนตัวของเจ้าบทความ ขอสงวนสิทธิในการเผยแผ่ต่อ โปรดเคารพต่อสิทธิของเจ้าของบทความ

เงิน ทอง

ผมตั้งใจไว้ว่าจะใช้เวลาของชีวิตปฏิบัติธรรมให้มากที่สุดโดยไม่ต้องพึ่งพาการบวช ผมตัดสินใจอย่างนั้นเหตุผลหลักมาจากคนใกล้ตัว ผมต้องการแสดงให้เห็นว่า มันไม่จำเป็นที่จะต้องใส่จีวร ท่องมนต์ บิณฑบาท ทำวัตร ผมปฏิเสธไม่ได้ว่าสำหรับคนที่มุ่งจะฝึกกันแบบจริงจัง การบวชจะช่วยตัดภาระเรื่องค่าใช้จ่ายพื้นฐานเท่าที่คุณจะนึกออกไปหลายอย่าง แล้วยังมีคนกราบไหว้ล้อมหน้าหลังเป็นของแถม



แต่ผมมองว่านั่นมันกระจอกเกินไป ทำไมคนที่ปฏิบัติธรรมต้องไปจบลงที่การเป็นนักบวชเหมือนกันหมด ในเมื่อธรรมแท้มีอยู่ในคนทุกคนไม่ยกเว้น จะบวชหรือไม่ความจริงข้อนี้ย่อมไม่แปรเปลี่ยน เท่าที่ผมทราบซึ่งจริงเท็จอย่างไรผมไม่รู้ หลวงพ่อเทียนบวชเพราะว่า การสอนคนด้วยรูปลักษณ์แบบโยมคนไม่ค่อยเชื่อท่านจึงบวช และในช่วงหลังท่านยังคิดจะสึกอีกด้วยเพราะการสอนโยมผู้หญิงให้รู้สึกตัวด้วยการจับหรือสัมผัสไม่คล่องตัวด้วยติดปัญหาเรื่องการถูกโจมตีศีลบัญญัติ ผมรับรู้เรื่องราววีรกรรมแบบแหกกฎของหลวงพ่อเทียนจากการอ่านหรือฟังหลายอย่างในช่วงแรกๆของการฝึก จนเริ่มสงสัยว่าหรือการเป็นพระมันจะไม่เกี่ยวกับธรรม ยิ่งผมฝึกมาได้ไกลเท่าไหร่ผมยิ่งมั่นใจว่า ไม่เกี่ยวกับการบวชเลย

ปัญหาของผมหลังจากการตัดสินใจอย่างนั้นคือ ผมจะเอาเงินที่ไหนใช้จ่าย ในเมื่อเวลาส่วนใหญ่ของผมหมดไปกับการฝึก บ้านผมไม่ได้รวย แต่ผมต้องมีเงินเลี้ยงชีวิตและมันต้องอยู่ได้โดยไม่บวช ผมจึงเริ่มคิดว่า

หนึ่ง...ผมจะทำยังไงที่ไม่ต้องไปทำงาน
สอง...มีเวลาฝึกอย่างเต็มที่
สาม...มีเงินใช้จ่าย ไม่รบกวนหยิบยืมผู้อื่น

ผมรู้สึกว่าโจทย์นี้ยากและท้าทายเพียงพอ ผมคิดเรื่องนี้หลายตลบตั้งแต่ตอนอยู่ต่างประเทศ วันนึงผมบอกคุณแม่ว่า ผมจะขายบ้าน แน่นอนว่าเค้าไม่เห็นด้วยเลยคิดว่าผมพูดเล่น ผมพูดอยู่หลายครั้งจนเค้ารู้ว่าห้ามไม่ได้แน่ และเค้าคงมั่นใจลึกๆว่าขายไม่ได้ บ้านทั้งเก่าทรุดโทรมและน้ำท่วมเข้าไปในบ้านประจำ หลังจากกลับมาเมืองไทยผมสืบค้นหาราคาที่ดิน มันยากทีเดียวที่จะทำให้ผู้ซื้อรู้สึกว่าไม่แพงและเราไม่เจ็บตัว ผมแปะป้ายขายหน้าประตู ไม่ถึงสองชั่วโมง โทรศัพท์ผมดังเป็นครั้งที่สี่และการนัดเซ็นสัญญาจะซื้อจะขายก็เกิดขึ้นเย็นวันนั้นเลย ทุกอย่างจบลงภายในหนึ่งเดือนเดือดที่คนทั่วไปแตกตื่นกับการเผาบ้านเผาเมือง

หลังจากตัดสินใจขายบ้าน ทางรอดเดียวที่ผมนึกออกคือไปอาศัยวัด ผมกลายเป็นคนไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง แน่นอนว่าผมถูกคนรอบข้างต่อต้านท้วงติง บ้าระห่ำ ไม่มีใครทำ ไม่รู้จักคิดหน้าคิดหลังให้รอบคอบ ผมฟังแต่ไม่ค่อยซึมซับเท่าไหร่ เพราะเจอคนคัดค้านเรื่องจะทำโน่นทำนี่มาโดยตลอดตั้งแต่คิดดร็อปเรียน วันหนึ่งผมไปธนาคารเพราะหาข้อมูลเรื่องขอเช่าเซฟธนาคาร เจ้าหน้าที่เมื่อรู้ว่า เรียนไม่จบ จะขายบ้าน และจะมีชีวิตอยู่ด้วยการเทรดทอง เค้าบอกว่านั่นคือสิ่งที่ไม่ควรทำกลับไปเรียนต่อซะดีกว่า ผมไม่แปลกใจกับสิ่งที่ได้ยิน แต่ไม่ว่าคุณจะร่ายเหตุผลอีกซักกี่ข้อ ผมก็จะทำแน่

การเทรดทองคำแท่งและเล่นหุ้น เป็นการหาเงินที่ผมค้นพบว่า ผมไม่ต้องไปทำงาน ผมมีเวลาฝึกเต็มที่ และผมได้เงิน ผมจึงตัดสินใจทำมันทั้งๆที่ผมไม่มีหัวเรื่องเศรษฐศาตร์เลย ผมเทียบบัญญัติไตรยางศ์หรือคิดกำไรเป็นเปอร์เซนต์ไม่เป็นด้วยซ้ำ แต่ผมมั่นใจว่ามันไม่ได้ยากเกินไปกว่า การฝึกชนิดอัดจนกว่าจะสลบแน่ ผมเจอของที่ยากมากมาแล้ว ขอให้มันยากจริงเถอะ

ผมเริ่มศึกษาเลือกระหว่างทองคำกับหุ้น ผมเลือกทองคำเพราะมันง่ายกว่าในการเริ่มต้นกระโดดลงไปในสมรภูมิที่ผมไม่รู้จัก และสิ่งที่ผมพบไม่มีอะไรมากนอกจากคำว่า โลภ กลัว และโง่ เมื่อผมมองกราฟ ผมไม่เห็นอะไรอื่นนอกจากสามตัวนี้เป็นหลัก เมื่อผมอ่านหนังสือเกี่ยวกับหุ้นเกือบทุกเล่ม จะต้องมีเขียนไว้ตรงไหนซักบรรทัดว่า การลงทุนในหุ้นต้องรู้จักตัวเอง เอาชนะตัวเอง และอย่าตัดสินใจลงทุนตามอารมณ์ แบบนี้ก็หวานน่ะซิผมคำรามในใจ ผมไม่มีพื้นฐานความรู้อะไรเกี่ยวกับการลงทุนแม้แต่นิดเดียว แต่ถ้าปัจจัยนี้ถูกเขียนลงในหนังสือทุกเล่มที่ผมอ่าน มันต้องสำคัญแน่ๆ ถ้าการเอาชนะอารมณ์ตัวเองเป็นปัจจัยหนึ่งในการการถือไพ่เหนือตลาดได้ ผมไหวแน่

เมื่อผมขายบ้านได้ ผมไม่เสียเวลาคิดอะไรมาก ผมเอาเงินทั้งหมดที่มีไปโยนลงในทองคำทันที ไม่มีการกระจายซื้อขาขึ้นขาลงอะไรทั้งนั้น เพราะผมจะเอาเวลาไปฝึกชนิดอัดจนกว่าจะสลบตามที่ตั้งใจไว้ ผมไม่ต้องการเสียเวลาเข้าออกร้านทอง นั่งเฝ้ากราฟทั้งวัน การเล่นประเภทฟิวเจอร์หรือเก็งกำไรระยะสั้นไม่เอื้อต่อการฝึกของผม อีกทั้งผมมีความคิดแสนบรรเจิด ผมต้องการผิด ผมเข้าใจว่าเราจะเริ่มเรียนรู้อะไรก็ตาม มันต้องผิดพลาดก่อนมันถึงจะได้บทเรียน ผมคิดง่ายๆแค่นั้น คำตอบที่ลงล็อคต่อเหตุผลที่ผมหาให้ตัวเองคือ ซื้อตูมเดียวด้วยเงินทั้งหมดที่มี แน่นอนคุณพ่อผมไม่เข้าใจว่าผมตัดสินใจอะไรแบบนั้น เพียงปลอบด้วยคำพูดที่ว่า ใจถึง แต่ผมหารู้ไม่ว่าการเทรดทองเป็นศิลปะแบบหนึ่ง มันมีชั้นเชิงในโลกแบบธุรกิจ ทันทีที่ผมซื้อทอง ราคาของมันก็ตกลงอีกอย่างมาก ผมจึงได้เข้าใจคำว่า ติดดอย แบบฝังลงไปในกะโหลกว่ามันเป็นแบบนี้เอง ผมได้ผิดพลาดสมใจแล้ว

กว่าที่ราคามันจะดีดขึ้นมาอยู่ที่จุดเท่าทุน ผมก็โกยกำไรจากการฝึกไปมากแล้ว ผมเริ่มผ่อนการฝึกเข้ารูปแบบลง แล้วเข้าไปสังเกตการขึ้นลงของราคาทองคำอย่างใกล้ชิด ถึงเวลาทำงานของผมแล้ว พอมันเลยต้นทุนซักร้อยนึงถึงร้อยห้าสิบคนส่วนใหญ่เริ่มแนะนำว่า ขายได้แล้วเอากำไรมาก่อน เงินเห็นๆ สปอตมันทำสถิตินิวไฮไปมากแล้ว เมื่อผมไม่ขายไม่เชื่อฟังคำแนะนำของบรรดาเซียนทั้งหลายที่เล่นมาก่อน ผมถูกมองว่าปฏิบัติธรรมแต่ดันโลภจะเอาเงินมากๆ ส่วนพ่อผมถูกมองว่า บ้าไปกับลูกตัวเอง เพี้ยน พ่อลูกคู่นี้มันเล่นไม่เป็น มันไม่เคยเล่น มันไม่รู้จังหวะขาย

ผลปรากฏว่า ทองกลับทะยานสูงขึ้นอีกทะลุการคาดเดาของบรรดาเซียนที่อยู่รอบตัว เซียนทั้งหลายเงียบกริบ และค่อยๆเปิดจุดอ่อนให้เห็นทีละนิด ในวันที่ผมตัดสินใจขาย ซึ่งเหตุผลที่ผมขายคือ ผมจะได้กลับไปฝึกโดยไม่ต้องมาทำงานอ่านแนวโน้มเดินทางเข้าออกร้านทองซักที ผมทำแบบเดิม คือขายทองคำทั้งหมดที่ผมมีในครั้งเดียว ผลของมันคือ ผมทำกำไรได้ทั้งหมด 2.5% โดยใช้เวลาถือประมาณสามเดือนครึ่ง ผมไม่ทราบว่ามันมากหรือน้อยในแง่ของการลงทุน แต่สำหรับบทเรียนครั้งแรก ผมโอเคกับมัน ทุกอย่างเป็นไปตามแผน ผมไม่ต้องไปทำงาน ผมมีเวลาฝึกเต็มที่ และผมได้เงิน มันมีจำนวนเพียงพอที่ผมจะอยู่ได้อีกหลายเดือนโดยไม่ต้องไปทำงาน

การที่ผมเล่าเรื่องนี้ให้พวกคุณฟัง เพราะมันมีเบื้องที่อยู่หลังบางอย่างน่าสนใจ นั่นคือ ผมมั่นใจว่า สิ่งที่พวกเราทุ่มเทฝึกในนามของการเจริญสติ มันต้องเอามาใช้กับชีวิตที่เป็นไลฟ์แท้ๆได้จริง ไม่ใช่เก่งแต่ตอนนั่งอยู่คนเดียว เก่งแต่ในวัด หรือเก่งพล่ามธรรมะ คนเก่งต้องเก่งในการเอามาใช้ในงานจริง ต้องใช้มันเพื่อออกจากการควบคุมของความกลัวหรือความโลภ

เมื่อตอนที่ผมติดดอย ผมไม่มีเงินเข้าเลย ผมทำบัญชีรายรับรายจ่ายทั้งๆที่ไม่เคยคิดจะทำ แต่ละเดือนติดลบตลอด แต่ผลของการฝึก ผมกลายเป็นคนอยู่ง่าย กินง่าย ทำงานแลกข้าววัดและประหยัด ความคิดจะคอยหลอกหลอนเล่นงานตลอด ให้ออกไปหางานทำ ตอนที่ราคาทองสามารถดันผ่านราคาต้นทุน และจากกระแสค่าเงินบาทแข็ง และการกั๊กราคาจากสมาคม คนทั่วไปทยอยขาย มันต้องใช้ความหนักแน่นในการที่จะไม่ทำตามคนอื่น และการไม่หวั่นไหวต่อบุคคลใกล้ตัวที่คอยเสกมนต์สะกด ยั่วยุให้ขายซะ เชื่อผม มันจะลง ขายออกไปก่อน ลงแล้วค่อยซื้อใหม่ จะลงหนักนะคราวนี้ การที่ผมไม่ขายสาเหตุหนึ่งก็คือ ผมจะดูว่า ผมชนะความกลัวและความกังวลไปได้แค่ไหน อีกสาเหตุหนึ่งคือผมมั่นใจมากว่ามันจะไม่ลง ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่เล่นทอง คุณจะรู้ว่ามันเป็นเกมของความกังวลและความหวังของนาทีต่อจากนี้ไป

เรื่องความโลภเป็นเรื่องตลก สำหรับคนที่รีบขายเอากำไร พวกน้ำขึ้นให้รีบตัก หรือพวกกระจายความเสี่ยง พวกเค้าหวาดกลัวในสิ่งที่จะเกิดขึ้นในวันต่อไป แต่สำหรับคนที่ใจเย็น รอบคอบ อ่านเกมได้ขาด การที่ไม่ขายตามคนอื่นเป็นการทำเพราะความโลภอย่างนั้นหรือ ตั้งแต่ทองลงที่จุดต่ำสุด จนถึงจุดที่ผมเทขายหมด ผมอ่านเกมตลาดไม่พลาดเลย มันไม่ใช่ว่าผมเก่ง แต่ลักษณะการวิเคราะห์ข้อมูลของผม ไม่เหมือนคนอื่น ปัจจัยหลักๆที่ผมใช้วิเคราะห์มีเพียงสองตัว คือผมเข้าใจ ความโลภและความกลัวของผู้คน ซึ่งมันเป็นเหมือนกันทั้งโลก ผมไม่สนตลาดนิวยอร์ก ตราบใดที่ยังเอาความโลภและความกลัวออกไปจากตลาดไม่ได้ เกมลักษณะนี้ผมไม่แพ้แน่

ผมไม่ได้มองที่ราคาทองหรือสปอตว่ามันมากแค่ไหน หรือตั้งเป้าว่าได้เท่านั้นเท่านี้แล้วจะขาย ผมสนแค่ว่า เมื่อไหร่ความโลภจะกลายเป็นความกลัวแล้วมันจะผกผันเมื่อไหร่ และตัวแสบที่สุดจะทำให้ทั้งสองตัวนี้เจ็บตัวพร้อมๆกันยังไง

ผมหวังว่าจะมีใครซักคนที่มีชีวิตอยู่โดยไม่ต้องทำงานในลักษณะทั่วๆไป มีเงินใช้เพียงเพื่อประทังชีวิตโดยไม่ฟุ้งเฟ้อ และทั้งหมดเป็นไปสำหรับจุดประสงค์เดียวคือ เพื่อเจริญสติ สิ่งพวกนี้มันมีความเป็นไปได้ตามความเห็นของผม

สำหรับการลงเล่นเกมครั้งแรก ผมสรุปข้อสังเกตได้ดังนี้

- ตลาดทองคำโลกมีเจ้ามือ มันไม่ได้ผันผวนตามดีมาน-ซัฟพลาย
- ทองคำไม่มีมูค่าที่แท้จริง
- การเข้าซื้อขายให้เข้าใกล้ที่จุดต่ำสุดหรือสูงสุดนั้น มีความเป็นไปได้สูง
- การเปลี่ยนแปลงราคาหนักๆกำหนดขาขึ้นหรือลงมักมาจากนิวยอร์ก
- ถ้าสมาคมกั๊กราคาแสดงว่าเราถือไพ่เหนือกว่า
- ถ้าสมาคมปล่อยราคาตามจริงแสดงว่าเค้าเดาทิศทางตลาดไม่ออก
- ถ้าสมาคมให้ราคาดีแสดงว่า ต้องการให้ผู้ถือปล่อยของ
- ราคาน้ำมัน ค่าเงิน จะขึ้นหรือลง ไม่เกี่ยวกับราคาทองคำ เป็นเพียงข้ออ้างในการเรียกความสนใจต่อแมงเม่า
- อ่านข้อมูลทั่วไป ไม่ต้องอ่านข้อมูลเชิงลึก ไม่ต้องอ่านบทวิเคราะห์ เพราะมันเรียกแมงเม่ามารวมกันที่กองไฟ
- ให้มองข้อมูลทั้งหมดที่ได้มาในทางตรงกันข้าม
- จงซื้อขายในช่วงที่คนบางตา เพราะมันจะเหลือแต่พวกตัวเซียนจริงๆที่อ่านเกมออก
- อย่าเชื่อคนอื่น
- การซื้อขายแบบกระจายความเสี่ยงดีเฉพาะกับคนที่อ่านเกมไม่ขาด





ขอให้วันนี้ของทุกคนสวยงามต่อไปครับ