โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน อย่าเชื่อโดยขาดการพิจารณาด้วยปัญญา เนื้อหาบางส่วนเป็นเรื่องส่วนตัวของเจ้าบทความ ขอสงวนสิทธิในการเผยแผ่ต่อ โปรดเคารพต่อสิทธิของเจ้าของบทความ

projects

ทำไมเวลาคนเราคิดอะไรขึ้นมาใหม่ๆได้จะต้องไปจดลิขสิทธิ์ แทนที่จะมานั่งหวงไอเดียแล้วทำเงินจากมัน ผมกลับมองว่าเป็นไปได้ไหมที่เราคิดอะไรขึ้นมา แล้วคนยิ่งก๊อปปี้เอาไปใช้มากเท่าไหร่ยิ่งเป็นผลดี ไอเดียที่จะปรากฏในบล็อคนี้ขอให้คุณลืมเรื่องทำกำไรหาเงินเข้ากระเป๋าไปเลยครับ

ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่มีไอเดียบางอย่างแล้วคุณรู้สึกว่ามันมีความเป็นไปได้ มันต้องดีต่อเพื่อนมนุษย์แน่ๆ ผมอยากจะให้คุณแชร์มันที่นี่ หรือให้ไกลกว่านั้นซักก้าวเรามาลงมือทำมันกันครับ หรือถ้าคุณยังไม่มีไอเดียอะไร ผมขอให้คุณช่วยแสดงความเห็นต่อการพัฒนาแนวคิดพวกนี้ ผมอาจจะต้องพูดอะไรบางอย่างดักทางไว้ก่อน นั่นคือไอเดียพวกนี้ค่อนข้างใหม่ มันก็จะมีความเห็นประเภทที่ว่า ทำไม่ได้หรอก ฝันเฟื่อง เพราะผมเปิดให้ใครก็ได้สามารถเขียนคอเมนต์ ผมจะลบความเห็นลักษณะนี้ออกทั้งหมด แต่ถ้าเป็นความเห็นที่ชี้จุดอ่อนจุดด้อย ผมขอขอบคุณผู้ให้ความเห็นจากใจครับ

สิ่งที่ผมคิดเอาไว้ มันเริ่มจากประโยคที่ว่า "ของฟรีไม่มีในโลก" คำพูดที่ผมเชื่อว่าทุกคนคงเคยได้ยิน ผมมีโครงการที่จะทำอยู่สามอัน สองอันแรกคือการตบหน้าระบบทุนนิยม ส่วนอันสุดท้ายคือสิ่งที่ผมทำคนเดียวไม่ได้


โครงการที่หนึ่ง : หนังสือ (win win project)


เมื่อผมไปร้านหนังสือ ผมเห็นหนังสือจำนวนมากวางขายหลากสีสันตาลายไปหมด แต่ผมมีไอเดียบางอย่างในการทำหนังสือที่ต่างออกไป ผมไม่คิดจะขายหนังสือแต่ผมจะให้เงินคนที่เอาหนังสือไปอ่าน และผมจะให้มากกว่าความรู้สึกที่มีหนังสือดีดีวางอยู่ในชั้นหนังสือตามบ้านหรือห้องสมุด มันทำงานยังไง

ผมจะเริ่มด้วยการทำหนังสือห้าเล่ม จากนั้นผมจะแจกหนังสือห้าเล่มนี้แก่คนห้าคนที่ไม่รู้จักกัน ผมจะให้เวลาเค้าหนึ่งเดือนในการอ่านมัน อาจจะเร็วหรือช้ากว่านิดหน่อยไม่มีปัญหา จากนั้นพวกเค้าทั้งห้าคนจะต้องส่งต่อหนังสือให้แก่คนที่เค้าเห็นว่าสมควรต่อไป ในหนังสือเล่มนั้นผมจะเขียนว่าให้คุณช่วยบริจาคเงินตามคุณค่าของสิ่งที่คุณได้อ่าน ไปเข้าบัญชีอะไรซักอัน ในส่วนท้ายของหนังสือนั้นจะมีที่ว่างไว้ให้ใส่ชื่อของคนที่เคยอ่านหนังสือนี้ไปแล้วและที่อยู่ที่สามารถติดต่อได้เอาไว้

เมื่อครบอีกหนึ่งเดือนคนที่รับหนังสือคนใหม่ก็จะทำแบบเดียวกัน จนครบหนึ่งปีหนังสือทุกเล่มจะต้องถูกส่งกลับมาที่ผม จะมีผู้อ่านทั้งหมดหกสิบคน จากนั้นผมจะเอาจำนวนหกสิบหารจำนวนเงินในบัญชีเงินบริจาคทั้งหมด แล้วผมจะส่งคืนให้แต่ละคน (ผมไม่ทราบว่าเวลาแค่หนึ่งปีได้ดอกเบี้ยไหม)

เมื่อตอนคนบริจาค เค้าจะบริจาคไม่เท่ากัน แต่เมื่อเค้ารับเงินคืนจะได้เงินเท่ากันทุกคน แน่นอนว่าเรื่องการคืนเงินต้องเป็นความลับจนกว่าจะครบสิบสองเดือน มันจะเป็นโปรเจคที่สนุกมากและเรียกได้ว่า วิน วิน

จริงๆแนวคิดนี้ ไม่จำเป็นต้องทำกับหนังสือ เพราะส่วนตัวแล้วผมไม่สนับสนุนให้อ่านหนังสือเท่าไหร่ ที่ว่าคนไทยอ่านหนังสือหกเจ็ดบรรทัดต่อปีผมเห็นว่าดีแล้ว ขอให้มันเป็นเจ็ดบรรทัดที่สำคัญที่สุดและคุณนำมันไปใช้ได้ทุกนาทีเถอะ ไม่ต้องอ่านมาก

เพียงแต่แนวความคิดนี้เริ่มที่หนังสือเพราะ มันเห็นภาพของความเป็นไปได้ชัดเจนเท่านั้น ถ้าจะนำมันมาใช้กับบล็อคก็ได้แต่ว่า มันมีปัญหาตรงที่ทุกวันนี้บล็อคส่วนใหญ่ถูกเขียนขึ้นมาโดยหวังว่ามันจะสามารถทำเงิน แม้แต่คู่มือเขียนบล็อคที่ผมมีก็มุ่งไปลงที่การทำเงินทั้งนั้น ผมไม่ต้องการทำอะไรอย่างนั้น ผมแสวงหาแนวทางการดำเนินชีวิตที่ไม่อิงเรื่องเงิน เป็นอิสระจากเงิน คนที่มีเจตนารมณ์แบบเดียวกัน ทำอะไรโดยไม่หวังเงินตอบแทน เพียงเพราะคุณสนุกที่ได้ทำ คุณเรียนรู้บางอย่าง และสร้างสรรสิ่งดีดีให้โลกใบนี้ ของฟรีไม่มีในโลกหรือ ผมจะทำให้คนที่พูดประโยคพวกนี้ต้องหุบปากเอง



โครงการที่สอง : รีสอร์ท







ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่เมื่อมีปัญหาชีวิตเข้ามาหนักๆ คุณอยากใช้เวลาอยู่คนเดียวซักระยะที่ไหนซักแห่ง ไม่ใช่เพื่อหนีปัญหา แต่เพื่อไตร่ตรองให้รอบคอบก่อนจะตัดสินใจทำเรื่องที่สำคัญ สถานที่นี้ถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อคนแบบคุณ สถานที่นี้คุณจะได้อยู่กับตัวคุณและปัญหาของคุณเท่านั้น ทุกอย่างฟรี

ถ้าจะมองกันจริงๆคอนเซปของมันคล้ายวัดและสถานปฏิบัติธรรมมากอยู่ นั่นเพราะผมเองมีความผูกพันไปใช้ชีวิตเรียนรู้ที่นั่นหลายครั้ง และเพราะการไปคลุกคลีมากนี่เอง ผมจึงเห็นข้อดีและข้อเสียของมันอย่างชัดเจน ผมพยายามจะเอาข้อเสียพวกนี้ออก ข้อเสียใหญ่ที่สุดที่ผมเล็งเห็นคือ มันมีภาระรับผิดชอบต่อตัวสถานที่มากเกินไป และต้นเหตุของการสร้างภาระคือ ธรรมเนียมของพระสงฆ์ที่ร้อยรัด แม้จะเข้าสู่การสลัดซึ่งสมมติ แต่พระก็อยู่ได้ทุกวันนี้ด้วยการเคารพสมมติ นั่นเป็นปัญหาของพระสงฆ์ที่เข้าไปถึงจุดนั้น พวกเค้ามักตัดปัญหารายละเอียดเรื่อง มานั่งสวดมนต์ ถวายสังฆทาน การทำบุญบริจาค รับกิจนิมนต์ ออกไปจากกิจวัตรเพื่อเน้นมาที่การเจริญสติอย่างเดียว และด้วยการตัดกิจกรรมเหล่านี้ออกทำให้พระพวกนี้ดูแปลกประหลาดกว่าพระอื่นๆ และถูกนำมาโจมตีว่าผิดธรรมเนียมพระ พวกเค้าจึงต้องใช้ชีวิตลักษณะจิตใจครึ่งนึงไปพ้นสมมติ แต่ยังต้องเคารพสมมติอีกครึ่งหนึ่งเพื่อการครองเพศสมณะเอาไว้เป็นตัวเรียกคนเข้าไปหาเพื่อถ่ายทอดธรรมะ

กฏเกณฑ์เป็นสิ่งที่ดี แต่มันต้องมีทิศทางชัดเจนว่า มันมีเพื่อจะมุ่งไปทิศทางไหน ถ้าเราจะคิดกฏเกณฑ์ขึ้นมาแล้วนำมันมาใช้ในทุกๆอย่าง มันจะวุ่นวายเหมือนสังคมโลกทุกวันนี้มันวุ่นวายเพราะกฏที่พวกเราสร้างขึ้นมาเอง และมีคนจำนวนมากที่ทำตามกฏเกณฑ์อย่างเคร่งครัดแล้วมีใจว่าคนอื่นที่ไม่ทำอย่างตนนั้นผิด

สถานที่ที่ผมจะสร้างขึ้นนี้ จะไม่มีกฏเกณฑ์อะไรมาก คุณมาที่นี่เพื่อตัวคุณเองเท่านั้นและมาเดี่ยวๆด้วย ที่นี่มีทุกอย่างเท่าที่รีสอร์ทจะมีให้ในระดับที่ผมทำเองคนเดียวให้ได้

มันจะมีครัวให้คุณทำกับข้าวเอง คุณจะทำบ่อยแค่ไหนเรื่องของคุณ และของทุกอย่างที่คุณจะใช้ทำกินคุณต้องเอามาเอง มีตู้เย็นเก็บให้ มันจะได้ตัดปัญหาเวลาที่คุณไปกินข้าวนอกบ้านแล้วนั่งบ่นว่าไม่อร่อย ไม่ว่าผู้พักจะเป็นพระหรือคนธรรมดา จะได้ที่พักเหมือนกันหมด ไม่มีมานั่งถวายอะไรให้ใคร หิวข้าวต้องไปทำกินเอาเองเหมือนๆกันนั่งโต๊ะดียวกัน

เมื่อคุณจะจากไปขอให้เก็บกวาดทุกอย่างที่คุณทำไว้ให้เรียบร้อย ถ้าทำไว้เลอะเทอะไม่ดีผมจะแบนคนที่นามสกุลเดียวกับคุณสามปีห้ามมาที่นี่อีก เนื่องจากที่นี่ไม่ใช่รีสอร์ทที่จะดูดเม็ดเงินจากคุณ ผมพูดได้เลยว่าผมไม่ง้อใคร ถ้าอยากได้ความสบายอาหารอร่อยไปหาที่อื่น ที่แบบนี้มีอยู่ทั่วไป ที่ที่เค้าต้องทนสันดานเสียของคุณเพื่อจะเอาเงินคุณและที่ที่คุณต้องทนความแย่ของเค้าเพราะจ่ายเงินไปแล้ว

ผมตั้งใจจะทำของมีคุณภาพฟรีๆตอบแทนโลกใบนี้ แต่ผมจะไม่มานั่งง้อออนวอนให้มาเอา เพราะทุกวันนี้เราต้องอดทนกันเหลือเกินกับคนอื่นๆเพียงเพราะเราต้องการบางสิ่งจากเค้า แต่ถ้าเราเป็นผู้ให้และสิ่งที่ให้เป็นของดีจริง มันไม่มีความจำเป็นอะไรที่ต้องมานั่งอดทนง้อให้เค้ามารับของที่จะให้

ผมเคยนำไอเดียนี้พูดคุยกับคนรู้จักคำถามมีเพียงอย่างเดียวที่คนทั่วๆไปต้องถามก่อนจะฟังจนจบ นายจะเอาเงินจากที่ไหนมาทำของฟรีๆให้คนใช้กัน โดยไม่เก็บเงินอะไรพวกเค้าเลย ผมมีทางออกอยู่สามทาง

ทางที่หนึ่ง เงินบริจาคจากผู้คนและองค์กร
ทางที่สอง โฆษณา
ทางที่สาม เงินผมเอง

ผมไม่ทราบว่าจะมีทางออกที่ดีกว่านี้ไหม เพราะคนเรามักถนัดการคิดอะไรเกี่ยวกับการลงทุนเพื่อเอาผลกำไร แต่ผมชอบหาทางที่มันท้าทายและสนุกกว่านั้น ทำยังไงที่จะมีเงินมาใช้โดยทั้งคนรับและคนให้ได้ประโยชน์ทั้งคู่ ผมชอขคำว่า วิน วิน มาก มีใครเคยทำวิจัยเรื่องการลงทุนกับโครงการประเภทที่ไม่แสวงผลกำไรบ้างครับ รบกวนแนะนำด้วยครับ




โครงการที่สาม : รถติด

โปรเจคที่ใหญ่มากและสลับซับซ้อนมากที่สุดอันหนึ่งที่ผมคิดขึ้น เริ่มพอจะมองเห็นเป็นรูปร่างขึ้นบ้างหลังจากที่ผมเล่าไอเดียให้เพื่อนคนหนึ่งฟังและเค้าตัดสินใจจะลงเล่นด้วย

ปัญหารถติดเป็นปัญหาที่เรื้อรังมากแต่ยังไม่มีใครแก้ได้ ผมเห็นความเป็นไปได้บางอย่างว่า ทำอย่างไรให้มันแก้ไขได้ นั่นคือผมจะระดมความคิดไอเดียการแก้ปัญหาต่างๆจากคนที่ใช้รถถนนจริงๆ ไม่ใช่จากนักวิชาการที่ไปคิดวิเคราะห์โปรเจคแล้วเอามาโยนให้เอาไปทำ ผมจะรวมไอเดียทั้งหมดของคนที่เป็นชาวบ้านธรรมดา ไม่ใช่นักวิเคราะห์ ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ ไม่ใช่รัฐบาล แต่เป็นไอเดียการแก้ปัญหาจากทุกคน แล้วเอามาทำผังจราจรเสนอการแก้ปัญหา โดยจะเชื่อมไอเดียทั้งหมดทำเป็นเครือข่าย และเอาคนใช้รถถนนมาหาทางออกด้วยกันไม่ใช่ถูกคิดขึ้นมาจากคนไม่กี่คน

และมันจะไม่ใช่การมาบอกว่ารถติดเพราะอย่างงั้นอย่างนี้ ต้องแก้ที่รัฐรัฐต้องทำแบบนี้แบบนี้ ต้องแก้ที่กรมทางหลวง ไอเดียแบบนี้ผมไม่เอาเรื่องแบบนี้ใครใครก็พูดได้บ่นได้ ผมต้องการวิธีแก้ที่เอามาใช้มาทำจริงๆ ไม่ต้องไปแก้ระบบอะไรทั้งนั้นเพราะมันจะไปพ่วงปัญหาให้สลับซับซ้อนขึ้นไปอีก

ไอเดียนี้ใหญ่มากจนผมคิดว่าอาจจะต้องเปิดเป็นเว็บไซด์เฉพาะเจาะจง


ผมต้องการคนช่วยจำนวนมาก ถ้าสนใจช่วยแก้ปัญหารถติดอันมีมานาน มาช่วยกันหน่อยครับ ผมบอกก่อนว่ามันไม่ใช่การทำเพื่อเอาเงินจะไม่มีการใส่โฆษณาให้คลิก หรือขายไอเดียให้องค์กรอะไรทั้งนั้น ใครมีอำนาจให้ช่วยเอาไอเดียพวกนี้ไปทำให้เกิดขึ้นจริงๆที เพราะมันมาจากประชาชนจริงๆ

ตอนนี้เริ่มด้วยการทำบล็อคเป็นเดโมเวอร์ชั่นขึ้นมาก่อนครับ ที่นี่

...........................................................................

บล็อกใหม่ยังไม่เสร็จนะครับ
ขอเอาไอเดียของใครบางคนที่อาสาอยากร่วมด้วยช่วยแรง
มาลงตรงนี้ก่อนนะครับ

01ไอเดียของคุณ tux:

ผมมีไอเดียว่า เอาไฟแดงตามแยกออกให้หมด เปลี่ยนเป็นทางลอดดีกว่า ไขว้กัน 3-4 ชั้น 4แยกก็ลอดกัน4ชั้น
5แยกก็5ชั้นแบบนี้ครับ จะไม่มีรถคันไหนที่หยุดอยู่ข้างหน้า ก็เท่ากับว่าจะไม่มีรถคันไหนกินพื้นที่ทางวิ่ง มันก็ไหลไปได้

มีจุดอ่อนอย่างหนึ่งครับเท่าที่ผมคิดได้ คือ ถ้ามีอุบัติเหตุรถก็จะติดอยู่ดี ผมจึงคิดต่อว่า

1. ทางหลวงหรือซุปเปอร์ไฮเวย์ ทำทางวิ่ง 4เลน นับจากซ้าย 1 2 3 4
เลน1กับ3วิ่งทางเดียวกัน เลน2กับ4ก็วิ่งทางเดียวกัน
ทุก 1กิโลเมตรสร้างทางต่างระดับ ให้ทางวิ่ง 1กับ3วิ่งถึงกันได้ เลน2กับ4ก็เหมือนกัน

2. ทางที่ไม่สามาถขยายออกไปด้านข้างได้ ก็ทำขึ้นข้างบนทำคล้ายกับข้อ 1
ไม่ว่าจะเกิดอุบัติเหตุข้างหน้ายังไง รถที่วิ่งตามมา จะเลี่ยงได้ ซึ่งจะไม่เกิดภาวะคอขวด

ผมลองทำภาพสามมิติออกมา น่าจะหน้าตาประมาณนี้